Server ไม่ว่าจะสร้างมาเพื่อทดสอบ หรือว่าใช้งานจริงก็ล้วนแต่เป็นเป้าหมายของการถูกโจมตีทั้งนั้น ดังนั้นเพื่อเป็นการอุดช่องโหว่ เราจึงต้องเรียนรู้การใช้ SSH, ปรับแต่ง Firewall, และติดตั้ง Intrusion detecttion เพื่อแจ้งเตือนเวลาที่มีใครมาบุกรุกกล่องดวงใจ(Linux box)ของเรา
วัตถุประสงค์:
เรียนรู้ระบบความปลอดภัยเบื้องต้นสำหรับผู้ดูแลระบบ รวมไปถึง การใช้ SSH login, การใช้ Firewall และวิธีการวิเคราะห์ Log เพื่อตรวจหาการโจมตี
1. ป้องกันการโจมตี ทาง ssh- Remove root access การใช้ username root ทำสิ่งต่างถือเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม แต่ถ้าใช้ root login ผ่าน ssh ยิ่งเป็นการกระทำที่เสี่ยงต่อการถูก hack อย่างมาก ดังนั้นไม่ควรอนุญาตให้ root login ผ่านทาง ssh
เพื่อป้องกันการใช้ user root login ผ่านทาง ssh sudo nano /etc/ssh/sshd_config |
ค้นหาบรรทัด PermitRootLogin yes |
แก้ให้เป็นตามนี้ PermitRootLogin no |
ปรับเวลาการรอรับ password ให้เร็วขึ้น แนะนำ 30 วินาทีกำลังดี (ค้นหาบรรทัดนี้แล้วเปลี่ยน เป็น 30วิ) LoginGraceTime 120 |
จำกัดการเข้าใช้ ssh โดยระบุ username ที่สามารถ login ผ่าน sshได้ เพิ่มบรรทัดนี้เข้าไป (คั่นระหว่าง user โดยใช้ช่องว่าง) AllowUsers someGuy someOtherGuy |
เปลี่ยน port เอาตามใจ ขอให้มากกว่า 1024 แต่ไม่เกิน 65535 port 65222 |
save แล้วก้ restart ssh service sudo /etc/init.d/ssh restart |
ติดตั้งโปรแกรม Fail2banติดตั้ง fail2ban sudo apt-get install fail2ban |
เปิดไฟล์ configure ขึ้นมาแก้ไข sudo nano /etc/fail2ban/jail.conf |
- maxfailures = 5 ---> ในส่วนนี้หมายถึง connect แล้ว fail ครบ 5 ครั้งแล้วให้แบน ip
- bantime = 600 ---> หมายถึงให้แบนเป็นเวลา 600 วินาที
- ignoreip = 192.168.0.0/24 ---> หมายถึง ip ในวงนี้ไม่ต้องไปสนใจแบนเพราะว่าอยู่ใน lan วงเดียวกัน
- รายละเอียดอ่านต่อ http://www.ubuntuclub.com/node/11
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น